ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ใครหลายคนเลือกเก็บสะสมไว้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ หรือทองคำเก่า ซึ่งเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ก็สามารถนำออกมาขายแลกเป็นเงินสดได้อย่างง่ายดาย แต่คำถามคือ… “ขายทองคำช่วงไหนได้ราคาดี?”
เพราะการขายทองในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มกำไร ลดโอกาสขาดทุน และช่วยให้คุณได้รับราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราจะพาคุณมาวิเคราะห์แนวโน้ม และเปิดเผยเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณ ขายทองได้ในช่วงราคาดีที่สุด
เนื้อหาในบทความนี้
ราคาทองคำถูกกำหนดจากอะไร?
ก่อนจะตัดสินใจขายทอง สิ่งที่คุณควรเข้าใจเป็นอย่างแรกคือ “ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงทุกวัน” ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยผสมผสานกัน โดยราคาทองที่เราเห็นในประเทศไทยมีที่มา 2 ส่วนหลักคือ:
- ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot Price): อิงจากตลาดซื้อขายทองคำในต่างประเทศ เช่น ตลาด COMEX, LBMA (London Bullion Market)
- ค่าเงินบาท: เพราะทองคำในไทยใช้การแปลงจากราคาต่างประเทศ ถ้าเงินบาทแข็ง ราคาทองในไทยจะถูกลง และถ้าอ่อนค่าราคาทองจะเพิ่มขึ้น
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในตลาด
- เศรษฐกิจโลก: หากเศรษฐกิจไม่แน่นอน เช่น ภาวะเงินเฟ้อ สงคราม โรคระบาด ราคาทองจะมีแนวโน้มพุ่งสูง เพราะนักลงทุนหันมาถือทอง
- อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ (Fed Rate): หากดอกเบี้ยต่ำ ทองมักราคาขึ้น เพราะผลตอบแทนจากสินทรัพย์อื่นลดลง
- ค่าเงินบาท/ดอลลาร์: หากเงินบาทอ่อนค่า ราคาทองในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาทองตลาดโลกจะนิ่ง
- อุปสงค์-อุปทาน: เทศกาลแต่งงาน เทศกาลตรุษจีน หรือฤดูที่มีการซื้อขายสูง จะส่งผลต่อราคาทองในประเทศ
เวลาทองขึ้น สัญญาณที่ควร “ขาย”
- ราคาทองปรับขึ้นต่อเนื่องหลายวัน
- ราคาทองแตะจุดสูงสุดในรอบเดือน/ปี
- ค่าเงินบาทอ่อนแรงลง
- ดัชนีหุ้นทั่วโลกลดลง นักลงทุนแห่ถือทอง
- ข่าวใหญ่ระดับโลกที่กระทบตลาดการเงิน เช่น สงคราม, ปัญหาการเงินของประเทศใหญ่
ขายทองคำช่วงไหนได้ราคาดี? วิเคราะห์ตามฤดูกาล
แม้ราคาทองจะขึ้นลงได้ทุกช่วงเวลา แต่จากสถิติของสมาคมค้าทองคำและแนวโน้มตลาด พบว่าช่วงเวลาที่ราคาทองมัก “พุ่งสูง” ได้แก่:
1. ไตรมาส 1 (ม.ค. – มี.ค.)
- ช่วงปีใหม่-ตรุษจีน
- ความต้องการทองคำเพิ่มจากจีนและเอเชีย
- เหมาะสำหรับขายทองช่วงปลายม.ค.-ต้นก.พ.
2. ไตรมาส 3 (ก.ค. – ก.ย.)
- ช่วงเทศกาลแต่งงานในอินเดีย
- ตลาดทองคำโลกคึกคัก ส่งผลราคาปรับขึ้น
3. ช่วงเศรษฐกิจผันผวน
- เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ, สงคราม, หรือดอกเบี้ยต่ำ ราคาทองจะวิ่งขึ้นรวดเร็ว
เทคนิคจับจังหวะขายทองให้ได้ราคาสูง
- ติดตามราคาทองรายวัน: เช็กผ่านเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ หรือร้านทองที่เชื่อถือได้ เช่น PPK Gold
- ตั้งเป้ากำไร: หากคุณซื้อทองเก็บไว้และได้กำไรเกิน 10-15% จากต้นทุน อาจถึงเวลาขาย
- จับตาค่าเงินบาท: หากเงินบาทอ่อนลงเร็ว ราคาทองจะพุ่ง ลองเทียบกับช่วงก่อนหน้า
- อย่าขายช่วงวันหยุด/วันนักขัตฤกษ์: เพราะร้านทองอาจหยุดหรือปรับราคาช้ากว่าตลาด
- เลือกขายกับร้านที่ให้ราคาสูงและไม่มีหักเปอร์เซ็นต์โดยไม่จำเป็น
คำแนะนำสำหรับการขายทองเก่า ทองรูปพรรณ
- ทองเก่า: มีรอยขีดข่วน หรือสีหมอง ร้านบางแห่งอาจหักเปอร์เซ็นต์ แนะนำขายกับร้านที่มีเครื่อง XRF ตรวจเปอร์เซ็นต์ทอง จะได้ราคายุติธรรม
- ทองรูปพรรณ: อาจถูกหักค่ากำเหน็จหรือเปอร์เซ็นต์ ให้เลือกขายช่วงที่ราคาทองสูง เพื่อลดผลกระทบจากการหักค่ากำเหน็จ
- ทองแท่ง: ได้ราคาดีกว่าทองรูปพรรณ เพราะไม่มีค่ากำเหน็จ
ต้องดูอะไรบ้างก่อนขายทอง?
- เช็กราคาทองวันนั้น: ราคาทองอัปเดตวันละหลายรอบ โดยเฉพาะช่วงเช้า-บ่าย
- เช็กราคาที่ร้านรับซื้อ: อาจต่างจากราคากลาง เพราะบางร้านหักเปอร์เซ็นต์เพิ่ม
- เปรียบเทียบร้าน: หากมีเวลา ควรโทรสอบถามหลายร้านก่อนตัดสินใจขาย
- เตรียมใบรับรองทอง (ถ้ามี): ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ โดยเฉพาะทองต่างประเทศ
ขายทองคำตอนไหนดีที่สุด?
ช่วงที่ควรขายทองคำที่สุด คือช่วงที่ “ราคาทองอยู่ในขาขึ้นและแตะระดับสูงกว่าปกติ” โดยควรอาศัยการติดตามข่าวสารตลาดทองคำ ค่าเงินบาท และความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโลกควบคู่กัน
ถ้าคุณกำลังมองหาช่องทางขายทองที่ ให้ราคาดี มีมาตรฐาน และตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองได้จริง การเลือกขายกับร้านที่มีชื่อเสียง เช่น PPK Gold จะช่วยให้คุณมั่นใจในราคาที่ได้รับ และได้รับการประเมินอย่างยุติธรรม
ต้องการขายทองคำในราคาดีที่สุด? ติดต่อเราได้ที่
PPK Gold | ร้านเพชรพรพุฒิ
รับซื้อทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ ทองเก่า ทองต่างประเทศ และบริการหลอมทองด้วยเครื่องตรวจเปอร์เซ็นต์ทอง XRF แบบทันสมัย
ให้ราคาดี ไม่มีหักเพิ่ม ตรวจสอบได้จริง!
มี 3 สาขาให้บริการ:
- สาขางามวงศ์วาน (ติดพันธุ์ทิพย์พลาซ่า)
- สาขา JJ Mall จตุจักร
- สาขา The Crystal รามอินทรา
สอบถามเพิ่มเติม/ประเมินราคาทองฟรี ได้ที่ Line Official: Line: @ppkgold
